โปรแกรมถ่ายทอดสด
| TV station |
True Premier Football HD1 True Premier Footbal HD2 |
วันและเวลาแข่งขัน?
| เกม | แมนฯ ยูไนเต็ด - เซาแธมป์ตัน |
| วันที่ | วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม 2563 |
| เวลา | 2.00 น. (เช้ามืดวันอังคาร) |
| สนาม | โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด |
LIVE UPDATE พรีเมียร์ลีก : แมนฯ ยูฯ - เซาแธมป์ตัน
พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2019-2020 ประจำโปรแกรมสัปดาห์ที่ 35 เป็นการพบกันระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดรังเหย้า โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แบบไร้คนดูตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ต้อนรับการมาเยือนของ เซาแธมป์ตัน
โอเล กุนนาร์ โซลชา กุนซือเจ้าบ้าน เลือกจัดทัพมาในระบบ 4-2-3-1 ใช้หน้าเป้าเป็น อ็องโตนี มาร์กซิยาล ทำเกมรุกร่วมกับ เมสัน กรีนวู้ด, บรูโน แฟร์นันด์ส และ มาร์คัส แรชฟอร์ด ด้านทีมเยือนของ ราล์ฟ ฮาเซนฮุทเทิล วางหมากมาในแผน 4-4-2 ด้วยการฝากความหวังในแนวรุกไว้คู่กองหน้าอย่าง แดนนี อิงส์ ซึ่งจะประสานงานร่วมกับ เช อดัมส์
เริ่มเกมได้ 10 นาที เป็นฝั่งของยูไนเต็ดเกือบจะพังประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว จากความผิดพลาดของ เจมส์ วอร์ด-พราวส์ ซึ่งจับบอลยาวไปเข้าทาง มาร์กซิยาล ได้ลากหลุดเดี่ยวไปยิงด้วยขวา แต่ยังติดเซฟด้วยมือซ้ายของ อเล็กซ์ แม็คคาร์ธีย์
ทว่าถัดมานาทีที่ 12 กลายเป็นเซาแธมป์ตันมาได้ประตูขึ้นนำ จากความผิดพลาดของ ปอล ป็อกบา ซึ่งไปโดน อิงส์ ฉกบอลหน้าเขตโทษ ก่อนที่ลูกจะทะลักไปถึง นาธาน เรดมอนด์ ได้ลากไปจ่ายต่อให้ สจ๊วร์ต อาร์มสตรอง จับแล้วแปด้วยขวาระยะเผาขนตุงตาข่าย ส่งให้นักบุญบุกนำ 1-0
ต่อมานาทีที่ 15 ปีศาจแดงส่งบอลตุงตาข่ายแต่ไม่ได้ประตู จากจังหวะที่ ลุค ชอว์ จ่ายทะลุช่องให้ แรชฟอร์ด หลุดเดี่ยวไปยิงด้วยขวาเข้าไป ทว่าโดนผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงเป็นการล้ำหน้าเสียก่อน
แต่แล้วนาทีที่ 20 เจ้าบ้านก็มาตามตีเสมอจนได้ จากจังหวะที่ ป็อกบา เปิดบอลทางกราบขวาเข้าเขตโทษให้ มาร์กซิยาล พักบอลแล้วกำลังจะเสียหลักแต่ยังได้ไหลต่อให้ แรชฟอร์ด ซัดด้วยซ้ายเข้าเสาไกลอย่างเฉียบคม ทำให้สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 1-1
ถัดมาเพียงแค่นาทีที่ 23 ยูไนเต็ดมาจัดการพลิกขึ้นนำ จากจังหวะที่ บรูโน แฟร์นันด์ส ไหลบอลให้ มาร์กซิยาล ลากแหวกแนวรับทีมเยือนในเขตโทษแล้วได้เหลี่ยมซัดด้วยขวาอย่างเด็ดขาด ช่วยให้ปีศาจแดงแซงนำ 2-1
ต่อมานาทีที่ 27 อดีตแชมป์ลีกสูงสุดอังกฤษ 20 สมัยเกือบจะได้ประตูที่สาม จากจังหวะที่ ชอว์ ไหลบอลให้ บรูโน แฟร์นันด์ส ไขว์หลังเร็วต่อให้ ป็อกบา ตั้งป้อมส่องไกลด้วยขวาระยะประมาณ 25 หลา แต่ยังโดน แม็คคาร์ทีย์ พุ่งปัดทิ้งได้ ก่อนจะจบ 45 นาทีแรก ยังเป็นเจ้าบ้านที่นำอยู่ 2-1
ครึ่งหลังนาทีที่ 48 เซาแธมป์ตันมีโอกาสลุ้นตีเสมอ จากจังหวะที่ อาร์มสตรอง ไหลบอลให้ เรดมอนด์ ได้ซัดด้วยขวาหน้าเขตโทษ แต่บอลพุ่งเรียดหลุดเสาออกไป
ถัดมานาทีที่ 55 ยูไนเต็ดมีโอกาสบ้าง จากจังหวะที่ แรชฟอร์ด ลองส่องไกลด้วยขวาระยะประมาณ 30 หลา แต่ยังโดน แม็คคาร์ธีย์ พุ่งปัดทิ้งออกหลังไปได้
จากนั้นนาทีที่ 67 ปีศาจแดงเกือบมีโอกาสได้บวกลูกสามเพิ่มอีก จากจังหวะที่ แรชฟอร์ด ไหลบอลไปสุดเส้นหลังฝั่งซ้ายให้ มาร์กซิยาล วิ่งตามไปตวัดเข้ากลางชิ่งกลับหวังจะให้ แรชฟอร์ด ได้แปด้วยขวา ทว่าแนวรับนักบุญยังช่วยกันสกัดทิ้งออกหลังได้ทันก่อน
ช่วงท้ายนาทีที่ 80 เจ้าบ้านมีโอกาสอีกครั้ง จากจังหวะที่ มาร์กซิยาล ใช้ความสามารถเฉพาะตัวกระชากบอลตั้งแต่กลางสนามแหวกแนวรับทีมเยือนไปจนได้โอกาสยิงด้วยขวาหน้าเขตโทษ ทว่าบอลโค้งโด่งหลุดกรอบออกไป
ถัดมานาทีที่ 85 นักบุญมีโอกาสใกล้เคียงในการตีเสมอ จากจังหวะที่ เรดมอนด์ ได้ซัดด้วยขวาหน้าเขตโทษ แต่ยังโดน ดาบิด เด เคอา พุ่งปัดทิ้งออกหลังได้ก่อน
ต่อมาช่วงทดเวลานาทีที่ 90+3 แบรนดอน วิลเลียมส์ แบ็คดาวรุ่งของปีศาจแดงซึ่งลงมาเป็นตัวสำรองแทน ลุค ชอว์ ตั้งแต่นาทีที่ 75 โชคร้ายบาดเจ็บศีรษะแตกจนเลือดออก จากจังหวะปะทะกับ ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส และฝืนเล่นต่อไม่ไหว ทำให้กลายเป็นว่าปีศาจแดงต้องเล่นแค่ 10 คน เพราะแม้จะเปลี่ยนตัวไปเพียง 4 คน แต่เปลี่ยนครบ 3 ครั้งแล้ว
และแล้วในช่วงทดเวลานาทีที่ 90+6 เซาแธมป์ตันก็ฉวยโอกาสที่ได้เปรียบผู้เล่น มาตามตีเสมอจนได้ จากลูกเตะมุมฝั่งซ้ายที่ วอร์ด-พราวส์ เปิดให้ เบดนาเรค สะกิดต่อให้ ไมเคิล โอบาเฟมี ชาร์จด้วยขวาระะยเผาขนตุงตาข่าย ทำให้สกอร์กลับมาเท่ากันอีกครั้งที่ 2-2
จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีก ทำให้สุดท้ายจบเกมด้วยผลเสมอ 2-2 แบ่งกันไปทีมละแต้ม โดยแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมีเพิ่มเป็น 59 คะแนนเท่ากับอันดับ 4 เลสเตอร์ ซิตี้ แต่ผลต่างประตูได้เสียเป็นรอง ทำให้ยังรั้งอันดับ 5 ส่วนเซาแธมป์ตันมีเพิ่มเป็น 45 คะแนน อยู่อันดับ 12
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
แมนฯ ยูฯ (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา; อารอน วาน-บิสซาก้า, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, แฮร์รี แม็คไกวร์, ลุค ชอว์ (แบรนดอน วิลเลียมส์ น.75); เนมานยา มาติช, ปอล ป็อกบา (เฟร็ด น.63); เมสัน กรีนวู้ด (แดเนียล เจมส์ น.84), บรูโน แฟร์นันด์ส (สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ น.84), มาร์คัส แรชฟอร์ด; อ็องโตนี มาร์กซิยาล
สำรองไม่ได้ใช้ : เซร์คิโอ โรเมโร, เอริค ไบญี, อันเดรียส เปเรรา, ฆวน มาต้า, โอเดียน อิกาโล
ใบเหลือง - อารอน วาน-บิสซาก้า น.90+2
เซาแธมป์ตัน (4-4-2) : อเล็กซ์ แม็คคาร์ธีย์; ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส, แจ็ค สตีเฟนส์, ยาน เบดนาเรค, ไรอัน เบอร์ทรานด์; สจ๊วร์ต อาร์มสตรอง (วิลล์ สมอลล์โบน น.70), เจมส์ วอร์ด-พราวส์, โอริโอล โรเมอู (ไมเคิล โอบาเฟมี น.87), นาธาน เรดมอนด์; แดนนี อิงส์, เช อดัมส์ (เชน ลอง น.64)
สำรองไม่ได้ใช้ : ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, ปิแอร์-เอมิล ฮอยแบร์ก, แองกัส กันน์, เจค โวกิ้นส์, เควิน แดนโซ, วิลเลียม เฟอร์รี
ใบเหลือง - เจมส์ วอร์ด-พราวส์ น.44, ยาน เบดนาเรค น.53, ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส น.56
สภาพความพร้อมก่อนเกมของทั้งสองทีม
แมนฯยูไนเต็ด อยู่ในสภาพทีมค่อนข้างพร้อมขาดเพียง ฟิล โจนส์ และ อาเซล ตวนเซเบ้ ที่ยังมีอาการบาดเจ็บ แนวรับใช้ แฮร์รี แม็คไกวร์ จับคู่กับ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ แดนกลางเป็น ปอล ป๊อกบา ประสานงานกับ เนมานยา มาติช ขณะที่แนวรุกเป็น เมสัน กรีนวู้ด, บรูโน แฟร์นันด์ส และ มาร์คัส แรชฟอร์ด คอยปั้นเกม โดยมี อ็องโตนีย์ มาร์กซิยัล ยืนเป็นหัวหอก
เซาแธมป์ตัน เกมนี้จะยังไม่มี ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, แยน วาเลรี และ โซเฟียเน บูฟัล ที่มีอาการบาดเจ็บ แนวรับใช้ ยาน เบดนาเรค จับคู่กับ แจ็ค สตีเฟนส์ แดนกลางนำทัพโดย ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก ประสานงานกับ เจมส์ วอร์ด-พราวส์ ริมเส้นสองฝั่งเป็น สจวร์ต อาร์มสตรอง และ นาธาน เร้ดมอนด์ คอยทำเกมรุก โดยมี เชน ลอง และ แดนนี อิ๊งค์ เป็นคู่หัวหอก
11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามของ
แมนฯยูไนเต็ด
เด เคอา(GK)
วาน-บิสซาก้า, ลินเดอเลิฟ, แม็คไกวร์, ชอว์
มาติช, ป๊อกบา
กรีนวู้ด, บรูโน, แรชฟอร์ด
มาร์กซิยัล
เซาแธมป์ตัน
แม็คคาร์ธี(GK)
วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส, เบดนาเรค, สตีเฟนส์, เบอร์ทรานด์
อาร์มสตรอง, วอร์ด-พราวส์, ฮอยเบิร์ก, เรดมอนด์
อิงส์, ลอง
ตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก 2020
แมนฯยูไนเต็ด เก็บชัยชนะมา 4 นัดติดต่อกันในลัก รั้งอันดับ 5 ของตารางคะแนน มี 58 คะแนน จาก 34 นัด ซึ่งหากเก็บชัยนะเกมนี้ได้พวกเขาจะขยับขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งท็อปโฟร์หลัง เชลซี พลาดท่าพ่ายต่อ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ในเกมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
ขณะที่ เซาแธมป์ตัน อยู่อันดับ 12 ของตารางมี 44 คะแนน รอดพ้นการตกชั้นแน่นอนแล้ว
July 14, 2020 at 04:03AM
https://ift.tt/3gOAslk
อดขึ้นท็อปทรี! แมนฯ ยูฯ โดนเซาแธมป์ตันตีเจ๊าทดเจ็บ 2-2 - Goal.com
https://ift.tt/3gJ5rA0
Home To Blog
No comments:
Post a Comment